วันกองทัพไทย
วันกองทัพไทย แม้จะไม่ใช่วันหยุดของราชการหรือเอกชน แต่การที่ได้มีวันนี้ขึ้นมา ก็เพื่อรำลึกถึงวีรชนผู้กล้าซึ่งเป็นกษัตริย์นักรบของไทย คือสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงทำยุทธหัตถีกับพม่าข้าศึก โดยเอาชนะพระมหาอุปราชา ทำให้ประชาชนชาวไทยทราบซึ้งถึงพระมหากรุณาธิคุณ และทรงยกย่องพระปรีชาที่สามารถปกป้องบ้านเมืองได้ ซึ่งหากเป็นสมัยนี้ก็ขอยอหน้าที่ปกป้องบ้านเมืองให้กับทหารทั้งสามเหล่าทัพ ที่ยอมพลีชีพเพื่อประเทศชาติ และปกป้องผืนแผ่นดินไทย จึงทำให้มีวันกองทัพไทยขึ้นมา
ความหมายของวันกองทัพไทย
วันที่ 18 มกราคม ของทุกปี วันกองทัพไทย เพราะเป็นวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงทำยุทธหัตถีกับพม่าข้าศึก โดยเอาชนะพระมหาอุปราชา ซึ่งตรงกับแรม 2 ค่ำเดือนยี่ ปีมะโรง หรือ วันที่ 18 มกราคม 2135
วันกองทัพไทยของประเทศไทย
เพราะทหารมีหน้าที่พิทักษ์ ปกป้องรักษาแผ่นดิน และบ้านเมืองให้เกิดความสงบสุข ซึ่งในประเทศไทยแต่โบราณ กษัตริย์ผู้ซึ่งเป็นนักรบ และเหล่าทหารกล้าได้ออกไปสู้กับเหล่าข้าศึกศัตรูอย่างไม่กลัวเกรง เฉกเช่นสมัยนี้ที่ประเทศไทยมีกองทัพไทย 3 เหล่า ได้แก่ กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ที่พร้อมยอมพลีชีพและปกป้องเพื่อชาติ ซึ่งเหล่าทหารต่างเป็นกำลังสำคัญในการป้องกันประเทศชาติจากการรุกรานของ ศัตรูในยามสงคราม แม้แต่ในยามสบงกำลังพลของกองทัพทั้ง 3 เหล่า ก็มีหน้าที่สำคัญอย่างมากในการพัฒนาประเทศชาติให้มีความเจริญรุ่งเรือง จึงได้กำหนดให้มีการจัดงานวันกองทัพไทยในวันที่18 มกราคม ของทุกปี
วันกองทัพไทยของต่างประเทศ
เชื่อว่าประเทศในโลกที่มีประวัติศาสตร์อย่างยาวนาน โดยเฉพาะในด้านการรบ หรือสงคราม ย่อมจะต้องมีการรำลึกถึงวันที่มีความสำคัญของชาติโดยเฉพาะ ซึ่งประเทศไทยเรียกกันว่าเป็นวันกองทัพไทย ซึ่งแต่ละชาตินั้นก็คงจะมีเช่นเดียวกัน เพียงแต่จะใช้ชื่อเรียกที่ต่างกันเท่านั้น เพราะสิ่งที่ทำให้เกิดงานนี้ขึ้นมา ก็เพื่อรำลึกถึงเหล่าทหารกล้า ผู้อุทิศตนในสงครามหรือสมรภูมิรบ เพื่อประเทศของตน
วันที่จัดกิจกรรมงานวันกองทัพไทย
วันที่จัดกิจกรรมงานวันกองทัพไทยคือวันที่ 18 มกราคม ของทุกปี
ปฏิทินวันกองทัพไทย
วันกองทัพไทย พ.ศ.2558 ตรงกับ วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ.2558 / วันอาทิตย์ แรม ๑๔ ค่ำ เดือนยี่(๒) ปีมะเมีย
วันกองทัพไทย พ.ศ.2559 ตรงกับ วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ.2559 / วันจันทร์ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือนยี่(๒) ปีมะแม
วันกองทัพไทย พ.ศ.2560 ตรงกับ วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ.2560 / วันพุธ แรม ๖ ค่ำ เดือนยี่(๒) ปีวอก
วันกองทัพไทย พ.ศ.2561 ตรงกับ วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม พ.ศ.2561 / วันพฤหัสบดี ขึ้น ๒ ค่ำ เดือนสาม(๓) ปีระกา
วันกองทัพไทย พ.ศ.2562 ตรงกับ วันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ.2562 / วันศุกร์ ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือนยี่(๒) ปีจอ
วันกองทัพไทย พ.ศ.2563 ตรงกับ วันเสาร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ.2563 / วันเสาร์ แรม ๙ ค่ำ เดือนยี่(๒) ปีกุน
วันกองทัพไทย พ.ศ.2564 ตรงกับ วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ.2564 / วันจันทร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือนสาม(๓) ปีชวด
วันกองทัพไทย พ.ศ.2565 ตรงกับ วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ.2565 / วันอังคาร แรม ๑ ค่ำ เดือนยี่(๒) ปีฉลู
วันกองทัพไทย พ.ศ.2566 ตรงกับ วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ.2566 / วันพุธ แรม ๑๒ ค่ำ เดือนยี่(๒) ปีขาล
วันกองทัพไทย พ.ศ.2567 ตรงกับ วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม พ.ศ.2567 / วันพฤหัสบดี ขึ้น ๘ ค่ำ เดือนยี่(๒) ปีเถาะ
วันกองทัพไทย พ.ศ.2568 ตรงกับ วันเสาร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ.2568 / วันเสาร์ แรม ๕ ค่ำ เดือนยี่(๒) ปีมะโรง
ประวัติวันกองทัพไทย
เมื่อ พ.ศ.2502 รัฐบาลในสมัยจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้กำหนดให้วันที่ 8 เมษายน เป็นวันกองทัพไทย และยังเป็นวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหม เป็นวันที่มีการปรับปรุงการทหาร จากการจัดอัตรา กำลังแบบโบราณมาเป็นการจัดอัตรากำลังแบบปัจจุบัน
ครั้นเมื่อสมัยพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใน พ.ศ.2523 เห็นว่าวันกองทัพไทยควรเป็นวันที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่แสดงถึงความกล้าหาญและเสียสละเป็นวันที่มีความสำคัญและมีความหมายยิ่ง สำหรับทหารทั้งสามเหล่าทัพ จึงได้กำหนดเอาวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีได้รับชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชาเป็นวันกองทัพไทยซึ่งตรงกับวันที่ 25 มกราคมของทุกปี
วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2539 พลตำรวจตรีสุชาติ เผือกสกนธ์ อดีตอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข ได้มีหนังสือพร้อมข้อมูลของวันกองทัพไทยเสนอไปที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีกราบเรียนนายกรัฐมนตรี ให้ทำการเปลี่ยนแปลงวันกองทัพไทย ด้วยเหตุที่ว่าได้ทำการศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง และได้พบความคลาดเคลื่อนของวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีจึงขอให้พิจารณาแก้ไขวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติไทยที่คลาดเคลื่อนให้ถูกต้อง เพื่อซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ไทยคือวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาซึ่งแต่เดิมกำหนดไว้ คือวันที่ 25 มกราคม ที่ถูกต้องคือวันที่ 18 มกราคม
วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ.2549 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ ให้เปลี่ยนแปลงกำหนดวันกองทัพไทยจากวันที่ 25 มกราคม เป็นวันที่ 18 มกราคม ของทุกปี โดยเริ่มใช้ครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 เป็นต้นไป และอนุมัติให้เป็นวันหยุดราชการของกระทรวงกลาโหม ซึ่งกิจกรรมที่กระทำในวันกองทัพไทยคือพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพลซึ่งถือเป็นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับทหารทุกๆคนในกองทัพแห่งชาติทุกเหล่า
กิจกรรมที่ทำในวันกองทัพไทย
ทุกวันที่ 18 มกราคม ของทุกปี เป็นวันกองทัพไทย เป็นวันหยุดราชการของกระทรวงกลาโหม ซึ่งกิจกรรมที่กระทำในวันกองทัพไทยคือพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพลซึ่งถือเป็นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับทหารทุกๆคนในกองทัพแห่งชาติทุกเหล่า
สวนสนามสาบานธง
พิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับทหารทุกคน เป็นกิจกรรมที่จะกระทำในวันกองทัพไทยคือ พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพล หรือที่นิยมเรียกว่า "สวนสนามสาบานธง" ซึ่งจะจัดขึ้นทุกปีในวันกองทัพไทย และวันสำคัญของแต่ละเหล่าทัพ เพื่อให้ทหารใหม่ได้ทำพิธีสาบานธงและเดินสวนสนามเพื่อแสดงความเป็นทหารอย่างสมบูรณ์
วางพวงมาลา
พิธีวางพวงมาลาเพื่อเป็นการระลึกถึงวีรกรรมและเป็นการสักการะดวงวิญญาณนักรบไทย ซึ่งจะมีพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์ทางทหาร เช่น อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อนุสาวรีย์ทหารอาสา อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ ฯลฯ
ทำบุญตักบาตร
ในวัน กองทัพไทย แม้จะไม่ตรงกับวันพระ อาจเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทางกองทัพไทยได้ร่วมกันทำพิธีสงฆ์ ทำบุญ ตักบาตร เพื่ออุทิศเป็นพระราชกุศล และเพื่อเป็นการรำลึกถึงวีรกรรม บรรพบุรุษเหล่านักรบไทยและทหารผู้กล้า รวมถึงกษัตริย์นักรบอย่างพระนเรศวรมหาราช ที่ช่วยกอบกู้เอกราชและรักษาผืนแผ่นดินไทยไว้ ซึ่งอาจจะจัดให้มีพิธีสงฆ์หรือการทำบุญ เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมนี้
ใต้ผืนดินไทยทุกตารางนิ้ว ที่ประชาชนชาวไทยได้อยู่อาศัย ได้ทำมาหากิน และอยู่สุขสบายมาจนถึงทุกวันนี้ ล้วนเป็นเรื่องที่ควรระลึกถึงบรรพบุรุษนักรบผู้กล้ายิ่ง เพราะผืนแผ่นดินที่เคยนองด้วยเลือดของบรรพบุรุษไทยจำนวนมาก ที่ต่อสู้กับอริราชศัตรู เพื่อทำการปกปักรักษามรดกนี้ มาจนถึงปัจจุบัน
บทบาทของกองทัพไทย
เพราะในวันที่ 18 มกราคม ถือเป็นวันกองทัพไทย ซึ่งเป็นเหล่าทหารที่มีหน้าที่ที่สำคัญต่อประเทศมากมาย ล้วนแต่เป็นหน้าที่ที่สำคัญต่อประเทศชาติ
การปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่สูงสุดและสำคัญสำหรับประชาชน เพราะพระมหากษัตริย์ทรงเป็นมิ่งขวัญแก่เหล่าทหารเทิดทูนไว้เหนือเกล้าฯ เป็นสถาบันที่สำคัญยิ่งแก่เหล่าทหาร กองทัพไทยจึงมีส่วนสำคัญในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยในโอกาสวันเฉลิมฉลองพระชนมพรรษาของทุกปี กองบัญชาการทหารสูดสุดได้จัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตน ณ สวนสนามทหารรักษาพระองค์
การรักษาความมั่นคงภายในและการป้องกันประเทศ
กองทัพไทยให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมถึงความร่วมมือจากประชาชนในการให้ข่าวสารกับทางราชการ และปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน และจัดทำแผนการป้องกันประเทศไว้สำหรับรับสถานการณ์จากภัยคุกคามทุกด้าน โดยจัดให้มีการฝึกกองทัพไทยทุกปี รวมถึงมีการจัดเตรียมกำลังรบพร้อมปฏิบัติการตามแผนตั้งแต่ยามปกติและยามคับขัน
การรักษาผลประโยชน์ของชาติ
กองทัพไทยมีบทบาทสำคัญในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ทั้งทางบกและทางทะเล เพื่อป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า รักษาเส้นทางคมนาคมทางทะเล ช่วยแหลือผู้ประสบภัย และบรรเทาสาธารณภัยและยังมีส่วนร่วมในการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้แก่ประชาชน รวมถึงการรักษาทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไว้สอดส่องดูแล รักษา ปกป้อง ทรัพยากรทางธรรมชาติไม่ให้ถูกทำลาย พร้อมทั้งส่งเสริมจัดกิจกรรมต่างขึ้น เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนมีสำนึกที่ดี
ส่งเสริมการปกครอง
กองทัพไทยมีความสำคัญในการปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนชาวไทยรักชาติ รักษาความมั่นคงความสงบสุขของสังคม โดยช่วยกันสอดส่องดูแล ให้ความรู้เรื่องการปกครองระบอบประชาธิปไตย ข่าวสารต่างๆแก่ประชาชน ทั้งนี้กองทัพไทยยังป้องกันตามชายแดนเพื่อแก้ปัญหาการลำเลียงยาเสพติดที่เป็นภัยต่อประเทศชาติอีกด้วย
กองทัพไทยยังมีหน้าที่ที่สำคัญจะต้องทำเพื่อประเทศชาติอีกมากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำปกป้องประเทศชาติ เพื่อให้พี่น้องชาวไทยได้อยู่อย่างสงบสุขภายใต้การปกครองของพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงเป็นประมุข
แนวทางการส่งเสริมกิจกรรมวันกองทัพไทย
วันที่ 18 มกราคม ของทุกปี เป็นวันกองทัพไทย ถือ เป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติไทย คือ วันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำยุทธหัตถี มีชัยชนะต่อพระมหาอุปราชา และเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้ปกป้องรักษาผืนแผ่นดินไทยนี้ไว้ และวันกองทัพไทยจึงเปรียบเสมือนนักรบผู้กล้าในอดีตที่เหล่าประชาจะยกย่องในความกล้าหาญต่อไป แนวทางที่จะส่งเสริมกิจกรรมวันกองทัพไทยให้อยู่คู่กับเหล่าทหารและคนไทย
ประกอบพิธีบำเบ็ญกุศล
ในวันกองทัพไทย เพื่อรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ขององค์วีรมหากษัตริย์ไทย กษัตริย์นักรบไทย และกษัตริย์ทุกพระองค์ รวมถึงเหล่าบรรพชนของไทย และทหารกล้าที่ได้สร้างวีรกรรมอันกล้าหาญ ยอมเสียสละเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อปกป้องรักษาแผ่นดินไว้เป็นมรดกจนถึงวันนี้ ซึ่งทางกองทัพไทยจึงได้จัดให้มีการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลขึ้นมา
จัดแสดงนิทรรศการ
จัดแสดงนิทรรศการ เกี่ยวกับความเป็นมาของความกล้าหาญแห่งวีรกษัตริย์ไทย และวันกองทัพไทย ให้นิสิต นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้เข้าใจและซาบซึ้งถึงเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในอดีตที่ผ่านมา ให้รับรู้ถึงความกล้าหาญ และความเสียสละเลือดเนื้อ เพื่อรักษาไว้ซึ่งแผ่นดินไทย
ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระนเรศวร
เราคนไทยควรตระหนักในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่พระองค์ทรงเสียสละ ต่อสู้กับข้าศึกศัตรูแม้ในยามที่ประชวรหนัก ก็ยังคงทำหน้าที่กษัตริย์นักรบ จนกระทั่งสวรรคตในสนามรบ ทำให้เหล่าประชาราษฎร์ต่างเทิดทูนถึงพระมหากรุณาธิคุณ ซึ่งในฐานะที่เราเป็นคนไทย เกิดบนแผ่นดินไทย มั่นทำความดีและดูแลบ้านเมืองให้สงบสุข ควรสามัคคี เพื่อที่เราจะได้อยู่กันอย่างสงบ และเพื่อตอบแทนพระคุณของพระองค์ท่าน ที่ได้ทรงเสียสละเลือดเนื้อเพื่อปกป้องรักษาแผ่นดินไทยของเราให้ได้อยู่มาจนถึงทุกวันนี้
พระองค์ทรงทำเพื่อชาติบ้านเมืองโดยสิ้นเชิง สมควรที่ชาวไทยรุ่นหลังจะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระนเรศวรชาวไทยจะจดจำวีรกรรมของพระองค์เทิดไว้เหนือเกล้าฯ และขอสดุดีเหล่าทหารกล้าวีรชนทุกคนในอดีต ตราบชั่วกาลนาน