ปฏิทินโหราศาสตร์ไทย สุริยยาตร์

พ.ศ./ค.ศ.
เนื่องจากการหาฤกษ์มงคลในการสำคัญมีกฎเกณฑ์วิธี มีข้ออนุโลมข้อยกเว้น ข้อพิจารณาอีกมากมาย บางฤกษ์ใช้การหนึ่งได้แต่ใช้กับอีกการหนึ่งไม่ได้ บางฤกษ์อาจต้องผูกรวมชะตาผู้ใช้ฤกษ์รวมกัน ดังนั้นฤกษ์ในการสำคัญท่านควรปรึกษา และให้ฤกษ์โดยโหรจารย์ผู้เชี่ยวชาญในการให้ฤกษ์ ทั้งนี้รายละเอียดฤกษ์ด้านล่าง แสดงเป็นเบื้องต้นเท่านั้น  ...  รายละเอียดฤกษ์

แนะนำ บริการให้ฤกษ์บุคคลตามหลักโหราศาสตร์ขั้นสูง ฤกษ์แต่งงาน ออกรถ ผ่าคลอด ลาสิกขา ยกเสาเอก เปิดร้าน บ้านใหม่ ฯลฯ ... รายละเอียด
อ่าน ใช้งาน แล้ว เขียนรีวิว และคลิก Like , Share ให้ด้วยนะครับ :)   N/A จาก N/A รีวิว
หมายเหตุ ปฏิทินโหราศาสตร์ไทย สุริยยาตร์ พ.ศ.2563/ค.ศ.2020
ปฏิทินโหราศาสตร์ไทย สุริยยาตร์ ชุดนี้ คำนวณสมผุสดาวตามคัมภีร์สุริยยาตร์และคัมภีร์มานัตต์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2300 - 2700 และเนื่องจากความแตกต่างกันของปฏิทินโหราศาสตร์ไทย แต่ละชุดหรือแต่ละเล่ม เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน ทราบถึงที่มาที่ไป รูปแบบ กฎเกณฑ์ และข้อกำหนดของปฏิทิน สรุปเป็นข้อ ๆ ดังนี้

[1] ปฏิทินโหราศาสตร์ไทยชุดนี้คำนวณสมผุสพระเคราะห์ ตามคัมภีร์สุริยยาตร์ และคัมภีร์มานัตต์ ตั้งจุดคำนวณ ณ เวลา 24:00น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงเทพฯ (UTC+06:42) ซึ่งเป็นเวลามาตรฐานไทยแบบเดิม ก่อนมีการปรับจุดอ้างอิงเวลา จาก จ.กรุงเทพฯ เป็น จ.อุบลราชธานี ใช้เส้นลองจิจูด 105° ตะวันออก เป็นจุดอ้างอิง เวลามาตรฐานประเทศไทย ปัจจุบัน (UTC+07:00) เริ่มใช้ตั้งแต่ 1 เมษายน พ.ศ.2463

เหตุเพราะมีการเปลี่ยนแปลงจุดอ้างอิงเวลามาตรฐานใหม่ แต่เกณฑ์และผลการคำนวณตามคัมภีร์สุริยยาตร์ อ้างอิงเวลาตามพิกัดเวลาท้องถิ่นกรุงเทพฯ (UTC+06:42) แบบดั้งเดิม ไม่ได้ปรับเปลี่ยนเกณฑ์หรือสูตรคำนวณในคัมภีร์ฯ ดังนั้นในการใช้งานปฏิทินโหราศาสตร์ไทย สุริยยาตร์ ต้องปรับฐานเวลาก่อน ดังนี้

ปฏิทินก่อน 1 เมษายน พ.ศ.2463 ยังใช้เวลาท้องถิ่นกรุงเทพฯ (UTC+06:42) เวลาจันทร์ยก เวลาฤกษ์ ดิถี หรืออื่น ๆ แสดงเวลา (UTC+06:42) ทั้งหมด , ถ้าปรับเทียบเวลามาตรฐานปัจจุบัน (UTC+07:00) ให้บวกเพิ่มเวลา 18 นาที (เวลา 18 นาที เป็นส่วนต่างเวลา ของ จ.กรุงเทพฯ และ จ.อุบลราชธานี คำนวณตามลองจิจูด) , เวลาทางดาราศาสตร์ เวลาดวงอาทิตย์ขึ้น ดวงจันทร์ฯ แสดงเวลามาตรฐานปัจจุบัน (UTC+07:00) เทียบเวลาท้องถิ่นกรุงเทพฯ (UTC+06:42) ให้ลบออก 18 นาที , การวางลัคนาไม่ต้องปรับเวลา

ปฏิทินหลัง 1 เมษายน พ.ศ.2463 ซึ่งเริ่มใช้เวลามาตรฐานใหม่ เวลาจันทร์ยก เวลาฤกษ์ ดิถี หรืออื่น ๆ แสดงเวลาท้องถิ่นกรุงเทพฯ (UTC+06:42) ทั้งหมด ถ้าปรับเวลามาตรฐานปัจจุบัน (UTC+07:00) ให้บวกเพิ่มเวลา 18 นาที , การวางลัคนาบางแบบต้องปรับฐานเวลาตามคัมภีร์สุริยยาตร์ก่อน โดยตัดส่วนต่างเวลาท้องถิ่นออกจากเวลาเกิด คือ นำเวลาเกิด ลบด้วย 18 นาที ก่อน ผูกดวงชะตา

เวลาที่แสดงในปฏิทิน มีขีดเส้นประใต้เวลา เป็นเวลาท้องถิ่นกรุงเทพฯ (UTC+06:42) , ไม่มีเส้น เป็นเวลาปัจจุบัน (UTC+07:00)

[2] ช่วงเวลาย้ายราศี เวลาย้ายฤกษ์ดิถี ในปฏิทินโหราศาสตร์ไทย สุริยยาตร์ ชุดนี้ คำนวณราศี ฤกษ์ดิถี ทุกนาที ตั้งแต่ 00.00น.-24.00น. (1,440 นาที) ของแต่ละวัน นำสมผุสเปรียบเทียบนาทีต่อนาที เพื่อหาเวลานาที ย้ายราศี ย้ายฤกษ์ดิถี จริง , สอบทานผลคำนวณดาวย้ายราศี ย้ายฤกษ์ดิถี ละเอียดระดับวินาทีได้ใน จักรราศีวิภาค ลัคนาฤกษ์ ของปฏิทินวันนั้น ๆ หรือ ดูดวง โหราศาสตร์ไทย

[3] ดาวโคจรวิปริต/วิกลคติ มี 3 แบบ คือ พักร์ (พ.) ดาวโคจรถอยหลัง , มณฑ์ (ม.) ดาวโคจรช้ากว่าปรกติ เกิดช่วงก่อนและหลังพักร์ และ เสริต (ส.) ดาวโคจรเร็วกว่าปรกติ , ผลดาวโคจรวิปริตในปฏิทินโหรฯ ชุดนี้ การโคจรวิปริตพักร์ พิจารณาองศา ความเร็ว ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับวันก่อนหน้า ส่วน มณฑ์ และ เสริต พิจารณาเปรียบเทียบความเร็วการโคจรกับค่าความเร็วเฉลี่ยต่อวัน และเนื่องจากเกณฑ์คำนวณด้วยคัมภีร์สุริยยาตร์และคัมภีร์มานัตต์ ผลการโคจรวิปริตอาจไม่ต่อเนื่องในบางช่วงเวลา อาจพักร์ชั่วขณะ (อนุวักระ) อาจขาดช่วงในบางวันเวลา ซึ่งเป็นข้อจำกัดของคัมภีร์ฯ จึงปรับปรุงการแสดงผลใหม่ ให้แสดงการโคจรวิปริตแบบต่อเนื่องเพื่อเห็นภาพรวมการโคจร , ดวงอาทิตย์ และ ดวงจันทร์ โคจรปรกติเดินหน้าเสมอ ส่วน ราหูและเกตุ โคจรถอยหลัง (พักร์) เสมอ , หากใช้การโคจรวิปริต ดู กราฟดาว/ดาวย้ายราศี สุริยยาตร์ พ.ศ.2563 ประกอบ ว่าการโคจรวิปริตรอบนั้น ๆ อยู่ช่วงเริ่มต้นหรือใกล้สิ้นสุด เพื่อพิจารณาเลือกใช้ได้เหมาะสม

[4] กฎเกณฑ์การคำนวณตามคัมภีร์สุริยยาตร์ และคัมภีร์มานัตต์ จากตำราดังนี้ (1.) ประติทิน โหราศาสตร์ พ.ศ.2417-2479. หลวงอรรถวาทีธรรมประวรรต (อ.วิเชียร จันทร์หอม) , (2.) คัมภีร์โหราศาสตร์ไทยมาตรฐาน ฉบับสมบูรณ์. หลวงวิศาลดรุณกร (อ.อั้น สาริกบุตร) , (3.) คัมภีร์สุริยยาตรแลมานัตต์ ฉบับเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้า อ.วรพล ไม้สน , (4.) ปฏิทินโหราศาสตร์ไทย พ.ศ.2504-2553. อ.ทองเจือ อ่างแก้ว ใช้สอบทานข้อมูลที่ได้จากการประมวลผล ซึ่งผลการคำนวณสมผุสตรงกัน อาจมีต่างกันเพราะตัดเศษลิปดาตอนท้าย , ปฏิทินโหรฯ ชุดนี้ในบางปีได้วางตากลไว้เพื่อตรวจสอบการละเมิดฯ , เกณฑ์คำนวณคัมภีร์สุริยยาตร์ฯ , ประกาศสงกรานต์ พ.ศ.2563

[5] การคำนวณตำแหน่งหรือสมผุสดาว ในระบบโหราศาสตร์แบ่งเป็น 2 ระบบหลัก คือ "นิรายนะ" (Sideral Zodiac / Fixed Zodiac) และ "สายนะ" (Tropical Zodiac / Movable Zodiac) ทั้ง 2 ระบบแตกต่างตรงจุดเริ่มราศีเมษ , เดิมทั้ง 2 ระบบใช้กลุ่มดาวแกะ เป็นจุดเริ่มต้นราศีเมษ 0° เหตุเนื่องจากแกนโลกที่หมุนเอียงและเหวี่ยง (Precession) ส่งผลให้จุดเมษหรือจุดวสันตวิษุวัต (Vernal Equinox) ซึ่งเดิมเคยอยู่ตรงกลุ่มดาวแกะ เคลื่อนที่ออกห่าง ส่งผลให้การสังเกตการณ์ ตำแหน่งดาวเทียบกับดาวฤกษ์ท้องฟ้าเปลี่ยนไป , แนวคิดระบบนิรายนะ นั้นอ้างอิงตำแหน่งดาวฤกษ์หรือกลุ่มดาวแกะแบบเดิม เป็นจุดเริ่มต้นราศีเมษ อาทิตย์ยกเข้าราศีประมาณวันที่ 13 - 17 ของแต่ละเดือน , ส่วนระบบสายนะ ใช้จุดเริ่มต้นราศีเมษ ตามจุดวสันตวิษุวัตที่เปลี่ยนไป ระบบสายนะ อาทิตย์ยกเข้าราศีประมาณวันที่ 21 - 22 ของแต่ละเดือน , ดังนั้นดาวดวงเดียวกันตำแหน่งเดียวกันบนฟ้า การอ่าน องศา ราศี ทั้ง 2 ระบบผลต่างกัน โดยองศาระยะห่างเท่ากับค่าอายนางศะ (Precession) ซึ่งปัจจุบันอายนางศะ (ลาหิรี) ประมาณ 24° และค่อยเพิ่มประมาณ 1 องศาทุก ๆ 72 ปี (ปีละประมาณ 50 พิลิปดา) , ปฏิทินโหราศาสตร์ นิรายนะวิธี ใช้ใน โหราศาสตร์ไทย โหราศาสตร์ตะวันออก พระเวท อินเดียส่วนระบบสายนะ ใช้ใน ระบบดาราศาสตร์ (Astronomy) โหราศาสตร์สากล (Traditional Astrology) โหราศาสตร์ตะวันตก โหราศาสตร์ยูเรเนียน (Uranian Astrology) เป็นต้น

ปฏิทินโหราศาสตร์ไทยที่นิยมใช้กัน มี 2 แบบ คือ (1) ปฏิทินโหราศาสตร์ไทย สุริยยาตร์ เป็นปฏิทินโหราศาสตร์ไทยแบบดั้งเดิม คำนวณตามคัมภีร์สุริยยาตร์และคัมภีร์มานัตต์ (2) ปฏิทินโหราศาสตร์ไทย นิรายนะวิธี ลาหิรี เป็นปฏิทินโหราศาสตร์ไทย คำนวณตามระบบดาราศาสตร์สากล นิรายนะวิธี (Fixed Zodiac) ตัดอายนางศะ แบบลาหิรี , ทั้งนี้ชื่อเรียกวิธีคำนวณต่างกัน แต่โดยหลักการ ปฏิทินโหราศาสตร์ไทยสุริยยาตร์ จัดเป็นระบบนิรายนะ ใช้กลุ่มดาวแกะ เป็นจุดเริ่มต้นราศีเมษแบบเดียวกัน แต่หากดูตามชื่อเรียกอาจเข้าใจว่าเป็นคนละแบบ

[6] กฎเกณฑ์ปฏิทินจันทรคติไทย การนับปีนักษัตร ปีศักราช ข้อกำหนดต่าง ๆ ดู หมายเหตุปฏิทินจันทรคติ พ.ศ.2563