|
|
พระพุทธคุณ ๕๖ |
คำแปลพระอิติปิโสรัตนมาลา |
อุปเทศการใช้พระคาถาแต่ละบท * |
๑ |
อิ. |
อิฏโฐ สัพพัญญุตัญญานัง
อิจฉันโต อาสะวักขะยัง
อิฏฐัง ธัมมัง อะนุปปัตโต
อิทธิมันตัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงปรารถนาพระสัพพัญญุตญาณ ทรงปรารถนาธรรมที่สิ้นอาสวะ ก็ได้ทรงบรรลุธรรมที่ทรงปรารถนาแล้ว ข้าฯขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าผู้ทรงมีความสำเร็จพระองค์นั้น |
จงหมั่นภาวนา ป้องกันศาสตรา ห่อนต้องอินทรีย์ ทั้งให้แคล้วคลาด นิราศไพรี ศิริย่อมมี แก่ผู้ภาวนา (ภาวนาป้องกันอาวุธเช่น หอก ดาบ เหลน หลาว) |
๒ |
ติ. |
ติณโณ โย วัฏฏะทุกขัมหา
ติณณัง โลกานะมุตตะโม
ติสโส ภูมี อะติกกันโต
ติณณะโอฆัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงข้ามพ้นจากทุกข์ในวัฏฏะแล้ว เป็นผู้ทรงพระคุณสูงสุดในไตรโลก ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าผู้ข้ามโอฆะแล้วพระองค์นั้น |
ถึงบทนี้ไซร้ หมั่นภาวนาไว้ กันภัยนานา ภูตผีปีศาจ มิอาจเข้ามา ทั้งปอบทั้งห่า ไม่มาหลอกหลอน (ภาวนาป้องกันภูตผีปีศาจ) |
๓ |
ปิ. |
ปิโย เทวะมะนุสสานัง
ปิโยพฺรหฺมานะมุตตะโม
ปิโย นาคะสุปัณณานัง
ปิณินทฺริยัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด เป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นที่รักสูงสุดของพรหมทั้งหลาย ตลอดไปจนถึงดิรัจฉานมีนาคและครุฑเป็นอาทิ ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าผู้มีอินทรีย์อิ่มพระองค์นั้น |
ภาวนานึก สติตรองตรึก อย่าทำร้อนใจ สารพัดเมตตา อย่าได้อาวรณ์ ครูแต่เก่าก่อน เคยได้ใช้มา เสกหมากรับประทาน เป็นที่เสน่หา แก่ชนทั้งหลาย (ภาวนาเสกกระแจะ น้ำมันหอม หมากพลู สารพัดที่กินที่ใช้ เป็นเสน่ห์แก่คนทั้งปวง) |
๔ |
โส. |
โสกา วิรัตตะจิตโต โย
โสภะนาโม สะเทวะเก
โสกัปปัตเต ปะโมเทนโต
โสภะวัณณัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด มีพระจิตคลายจากความโศกแล้ว เป็นผู้งดงามในโลกนี้กับทั้งเทวโลก ทรงยังสัตว์ทั้งหลายผู้เศร้าโศกให้หายโศก ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าผู้มีพระฉวีวรรณงามพระองค์นั้น |
ภาวนาทุกวัน ตามกำลังวัน ป้องกันอันตราย ทุกข์ภัยพิบัติ สารพัดเหล่าภัย ศัตรูทั้งหลาย แคล้วคลาดห่างไกล (ภาวนาเพื่อบรรเทาทุกข์โศกทั้งปวง) |
๕ |
ภะ. |
ภะชิตา เยนะ สัทธัมมา
ภัคคะปาเปนะ ตาทินา
ภะยะสัตเต ปะหาเสนโต
ภะยะสันตัง นะมามิหัง |
พระสัทธรรมทั้งหลาย อันพระพุทธเจ้าพระองค์ใดผู้มีบาปอันหักทำลายแล้ว มีพระหฤทัยคงที่ ทรงแจกแล้ว พระพุทธเจ้าพระองค์ใดทรงยังสัตว์ผู้กลัวภัยให้หายกลัว ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าผู้มีภัยอันระงับแล้วพระองค์นั้น |
จงภาวนา กันโรคโรคา ไข้เจ็บทั้งหลาย ศัตรูมุ่งมาตร มิอาจทำได้ พินาศยับไป ด้วยพระคาถา (ภาวนาป้องกัน ศัตรูทำร้ายมิได้) |
๖ |
คะ. |
คะมิโต เยนะ สัทธัมโม
คะมาปิโต สะเทวะกัง
คัจฉะมาโน สิวัง รัมมัง
คะตะธัมมัง นะมามิหัง |
พระสัทธรรม อันพระพุทธเจ้าพระองค์ใดทรงบรรลุแล้ว ทรงยังมนุษย์กับทั้งเทวดาให้บรรลุด้วย ทรงบรรลุถึงพระนิพพานอันควรยินดี ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าผู้มีธรรมอันบรรลุแล้วพระองค์นั้น |
ถ้าหมั่นภาวนา โรคภัยโรคา ไม่มายายี จะค่อยบรรเทา หากโรคเก่ามี มิช้ากายี สิ้นทุกข์สุขา (ภาวนาบรรเทาโรคาพยาธิ) |
๗ |
วา. |
วานา นิกขะมิ โย ตัณหา
วาจัง ภาสะติ อุตตะมัง
วานะ นิพพาปะ นัตถายะ
วายะมันตัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงออกจากวานะ (เครื่องร้อยรัด) คือตัณหาแล้ว ทรงกล่าวพระวาจาอันเลิศแล้ว เพื่อประโยชน์แก่การดับไฟคือวานะ ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าผู้ทรงมีความเพียรพยายามพระองค์นั้น |
บทนี้ดีล้ำ ภาวนาซ้ำซ้ำ ป้องกันศัตรู เหล่าโจรอาธรรม์ พากันหนียู้ ไม่คิดต่อสู้ ออกได้หายไป (ภาวนาป้องกันโจรผู้ร้าย) |
๘ |
อะ. |
อะนัสสา สะกะสัตตานัง
อัสสาสัง เทติ โย ชิโน
อะนันตะคุณะสัมปันโน
อันตะคามิง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด โปรดประทานความอุ่นใจแก่สัตว์ทั้งหลายผู้ไม่มีความอุ่นใจ พระองค์เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยพระคุณหาที่สุดมิได้ ข้าฯ ขอนอบน้อมพระชินเจ้าพระองค์นั้นผู้ทรงบรรลุถึงที่สุด (แห่งความทุกข์) |
ให้ภาวนา กันเสือช้างม้า ทำร้ายรบกวน เป็นมหาจังงัง สิ้นทั้งขบวน จระเข้ประมวญ สัตว์ร้ายนานา (ภาวนาป้องกันเสือและจระเข้) |
๙ |
ระ. |
ระโต นิพพานะสัมปัตเต
ระโต โย สัตตะโมจะเน
รัมมาเปตีธะ สัตเต โย
ระณะจัตตัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงยินดีแล้วในพระนิพพานสมบัติ พระองค์ใดทรงยินดีแล้วในอันปลดเปลื้องสัตว์ (จากทุกข์) พระองค์ใดทรงยังสัตว์ทั้งหลาย ในโลกนี้ให้ยินดี (ในการเปลื้องทุกข์นั้นด้วย) ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นผู้สละข้าศึก (คือกิเลส) เสียได้ |
ภาวนาไว้ คุณคนคุณไสย สารพัดพาลา ใช้ป้องกันได้ มิให้เข้ามา ถูกต้องกายา พินาศสูญไป (ป้องกันการกระทำคุณผีและคุณคนทั้งปวง) |
๑๐ |
หัง. |
หัญญะติ ปาปะเก ธัมเม
หังสาเปติ ปะรัง ชะนัง
หังสะมานัง มะหาวีรัง
หันตะปาปัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงกำจัดธรรมทั้งหลายอันเป็นบาปเสียได้ ยังชนอื่นให้ร่าเริง (ในธรรมอันเป็นกุศล) ข่าฯขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นผู้มีพระหฤทัยร่าเริงกล้าหาญยิ่งใหญ่กำจัดบาปได้ |
ให้ภาวนา เมื่อเวลา เข้าสู่สงคราม ข้าศึกศัตรู ใจหู่ครั่นคร้าม ไม่คิดพยาบาท ทำร้ายเราแล (ภาวนาเพื่อเข้าสู่ณรงค์สงคราม) |
๑๑ |
สัม. |
สังขะตาสังขะเต ธัมเม
สัมมา เทเสสิ ปาณินัง
สังสารัง สังวิฆาเฏติ
สัมพุทธันตัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงแสดงธรรมทั้งที่เป็นสังขตะ ทั้งที่เป็นอสังขตะ แก่สัตว์ทั้งหลายโดยถูกต้อง ทรงพิฆาตสงสารวัฏเสียได้ ข้าฯขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นผู้ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง |
ภาวนาตรึก ช่างดีพิลึก ท่านในรำพรรณ เมื่อจะเข้าสู้ เหล่าศัตรูสรรพ์ หมดสิ้นด้วยกัน พ่ายแพ้ฤทธี (ภาวนาถ้าจะเข้าสู่สงคราม หาผู้ทำร้ายมิได้แล) |
๑๒ |
มา. |
มาตาวะ ปาลิโต สัตเต
มานะถัทเธ ปะมัททิโต
มานิโต เทวะสังเฆหิ
มานะฆาฏัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงถนอมสัตว์ทั้งหลาย ดังมารดาถนอมบุตร พระพุทธเจ้าพระองค์ใดทรงกำหราบเสียได้ซึ่งคนกระด้างเย่อหยิ่ง พระพุทธเจ้าพระองค์ใดอันหมู่เทวดานับถือแล้ว ข้าฯขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นผู้กำจัดมานะได้ |
ภาวนาไว้ ถ้าหมั่นเสกใช้ ทุกวันยิ่งดี แก้คนใจแข็ง มานะแรง มีใจอ่อนทันที ไม่มีเย่อหยิ่ง (ภาวนาเพื่อทำคนแข็งให้อ่อน) |
๑๓ |
สัม. |
สัญจะยัง ปาระมี สัมมา
สัญจิตะวา สุขะมัตตะโน
สังขารานัง ขะยัง ทิสวา
สันตะคามิง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงสั่งสมพระบารมีทั้งหลายมาโดยชอบ ทรงก่อสร้างความสุขแก่พระองค์ขึ้นได้ ข้าฯขอนอบน้อมพระพุทธเจาพระองค์นั้น ผู้ทรงเห็นความเสื่อมสิ้นแห่งสังขารทั้งหลาย แล้วได้บรรลุถึงธรรมอันรำงับ |
สำหรับบทนี้ ตำรับกล่าวชี้ ว่าดีจริง สำหรับเสกยา ปัญญาดียิ่ง สุดจะหาสิ่ง ใดมาเปรียบปาน (ภาวนาเสกของกิน มีปัญญา) |
๑๔ |
พุท. |
พุชฌิตวา จะตุสัจจานิ
พุชฌาเปติ มะหาชะนัง
พุชฌาเปนตัง สิวัง มัคคัง
พุทธะเสฏฐัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ตรัสรู้สัจจะทั้ง ๔ แล้ว ทรงยังมหาชนให้รู้ด้วย ข้าฯขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐพระองค์นั้น ผู้ทรงช่วยสัตว์ให้รู้ทางพระนิพพาน |
ภาวนาไป เสนียดจัญไร มิได้พ้องพาน อุปสรรคไรๆ ก็ไม่พะพาน แสนจะสำราญ ให้หมั่นภาวนา (ภาวนาป้องกันเสนียดจัญไร อุปัททะทั้งปวง) |
๑๕ |
โธ. |
โธติ ราเค จะ โทเส จะ
โธติ โมเห จะ ปาณินัง
โธตะเกลฺสัง มะหาปุญญัง
โธตาสะวัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงล้างเสียซึ่งราคะและโทสะ ทรงล้างเสียซึ่งโมหะของสัตว์ทั้งหลาย ข้าฯขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นผู้มีบุญมาก มีกิเลสอาสวะอันล้างแล้ว |
ภาวนาไว้ กันเสือช้างได้ ทั้งสุขหนา ใช้ป้องกันบ้าง สัตว์ร้ายนานา ไม่อาจเข้ามา ยายีบีฑา (ภาวนาป้องกันสัตว์ร้ายเช่น ช้าง เสือ) |
๑๖ |
วิช. |
วิเวเจติ อะสัทธัมมา
วิจิตะวา ธัมมะเทสะนัง
วิเวเก ฐิตะจิตโต โย
วิทิตันตัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงยังสัตว์ให้เลิกร้างห่างไกลจากอสัทธรรม ทรงก่อการแสดงธรรมขึ้น เป็นผู้มีพระจิตตั้งอยู่ในวิเวก ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นผู้เป็นนักปราชญ์ |
สำหรับบทนี้ คุณาย่อมมี อติเรกนานา กันพวกศัตรู เหล่าหมู่พาลา ไม่อาจเข้ามา หลบหน้าหนีไป (ภาวนาป้องกันศัตรู ทำให้มีเมตตาจิต) |
๑๗ |
ชา. |
ชาติธัมโม ชะราธัมโม
ชาติอันโต ปะกาสิโต
ชาติเสฏเฐนะ พุทเธนะ
ชาติมุตตัง นะมามิหัง |
ชาติธรรม ชราธรรม ธรรมอันเป็นที่สุดแห่งชาติ (คือ มรณธรรม) พระพุทธเจ้าผู้ทรงมีพระชาติอันประเสริฐทรงประกาศแล้ว ข้าฯ ขอนอบน้อมพระองค์ผู้ทรงพ้นจากชาติแล้ว |
ภาวนาไว้ คุณไสยอนันต์ ทำมามิได้ จงหมั่นภาวนา อย่าได้สงสัย อาจารย์กล่าวไว้ ดังได้อ้างมา (ภาวนาป้องกันการกระทำ จะไปทิศานุทิศใดคนไม่ทำร้าย) |
๑๘ |
จะ. |
จะเยติ ปุญญะสัมภาเร
จะเยติ สุขะสัมปะทัง
จะชันตัง ปาปะกัมมานิ
จะชาเปนตัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงก่อสร้างพระบุญสมภารมา จึงสั่งสมพระสุขสมบัติขึ้นได้ ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงละทิ้งเอง และยังสัตว์ทั้งหลายให้ละทิ้งด้วย ซึ่งบาปกรรมทั้งหลาย |
บทนี้ดีล้น เสกทำน้ำมนต์ รดเกล้ากายา เสกมะกรูดส้มป่อย ถ้อยความมีมา ใช้สระเกษา ถ้อยความสูญไป (ภาวนาสระหัว หายถ้อยความ ไม่เป็นเหตุให้วิวาทกับใครๆ) |
๑๙ |
ระ. |
ระมิตัง เยนะ นิพพานัง
รักขิตา โลกะสัมปะทา
ระชะโทสาทิเกลฺเสหิ
ระหิตันตัง นะมามิหัง |
พระนิพพาน อันพระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงยินดีแล้ว ความดีสำหรับโลกอันพระพุทธเจ้าพระองค์ใดทรงรักษาไว้แล้ว ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ละเว้นจากกิเลสทั้งหลาย |
ภาวนา ศัตรูอาธรรพ์ สรรพโรคภัย กันได้หลายอย่าง ทั้งเสนียดจัญไร ภาวนาไว้ อย่าได้กังขา (ภาวนากันเสนียดจัญไรทั้งปวง) |
๒๐ |
ณะ. |
นะมิโตเยวะ พรหเมหิ
นะระเทเวหิ สัพพะทา
นะทันโต สีหะนาทัง โย
นะทันตัง ตัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด อันพรหมและเทวดา มนุษย์ทั้งหลายนอบน้อมอยู่ทุกเมื่อ พระพุทธเจ้าพระองค์ใดทรงบันลือสีหนาท ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นผู้ทรงบันลือสีหนาทอยู่ |
บทนี้เป็นเอก มีคุณเอนก สุดจะพรรณนา ระงับดับโศก กันโรคผีห่า อันจะมาคร่า ชนมายุไซร้ (ภาวนาป้องกันห่าลงแล) |
๒๑ |
สัม. |
สังขาเร ติวิเธ โลเก
สัญชานาติ อะนิจจะโต
สัมมา นิพพานะสัมปัตติ
สัมปันโน ตัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงกำหนดรู้สังขารทั้งหลายในสามโลก โดยความเป็นของไม่เที่ยง ทรงถึงพร้อมด้วยพระนิพพานสมบัติโดยชอบ ข้าฯขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น |
สำหรับบทนี้ ท่านอาจารย์ แนะนำกล่าวไว้ ใช้เป็นเสน่ห์ สมคะเนดังใจ อย่าได้สงสัย ดียิ่งนักหนา (ภาวนาเป็นเสน่ห์) |
๒๒ |
ปัน. |
ปะกะโต โพธิสัมภาเร
ปะสัฏโฐ โย สะเทวะเก
ปัญญายะ อะสะโม โหติ
ปะสันนัง ตัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงก่อสร้างโพธิสมภารมา จึงได้เป็นผู้ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์กับทั้งเทวดา หาผู้เสมอมิได้ด้วยพระปัญญาธิคุณ ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นผู้ผ่องใส |
บทนี้สามารถ กันภูตปีศาจ ไม่อาจเข้ามา หลอกหลอนเราได้ ท่านให้ภาวนา จงได้อุตส่าห์ ท่องให้ขึ้นใจ (ภาวนาป้องกันภูตผีปีศาจทั้งปวง) |
๒๓ |
โน. |
โน เทติ นิระยัง คันตุง
โน จะ ปาปัง อะการะยิ
โน สะโม อัตถิ ปัญญายะ
โนนะ ธัมมัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ป้องกันสัตว์ไว้มิให้ไปนรก และมิให้ทำบาป ผู้เสอพระองค์ด้วยปัญญาหามีไม่ ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้หาความบกพร่องมิได้ |
บทนี้ภาวนา ป้องกันฟ้าผ่า และช้างม้าภัย มีจิตจำนง ประสงค์สิ่งใด ลงของก็ได้ ใช้ตามปรารถนา (ภาวนาป้องกันช้าง) |
๒๔ |
สุ. |
สุนทะโร วะระรูเปนะ
สุสะโร ธัมมะภาสะเน
สุทุททะสัง ทิสาเปติ
สุคะตันตัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด มีพระรูปงาม ทรงแสดงธรรมเล่าก็มีพระเสียงดี โปรดเวไนยชนให้เห็นธรรมอันเห็นได้ยาก ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้เสด็จไปดีแล้ว |
ภาวนากันคุณว่านยา อันเขากระทำมา
ทั้งอาวุธ และเครื่องศาสตรา แม้ถูกกายา ก็มิเป็นไร (ภาวนาป้องกันการกระทำและอาคมทั้งปวง) |
๒๕ |
คะ. |
คัจฉันโต โลกิยา ธัมมา
คัจฉันโต อะมะตัง ปะทัง
คะโต โส สัตตะโมเจตุง
คะตัญญาณัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด เสด็จไปเสียจากโลกียธรรม ถึงโลกุตรธรรมอันเป็นอมตบท พระองค์เสด็จไปไหนๆก็เพื่อปลดเปลื้องสัตว์จากทุกข์ ข้าฯขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้บรรลุพระสัพพัญญุตญาณแล้ว |
ทำน้ำมนต์ บริกรรมพร่ำบ่น อย่าได้เมามัว ประพรมสินค้า จงอย่ายิ้มหัว กำไรเกินตัว อย่ากลัวขาดทุน (ภาวนาเพื่อค้าขายกินรุ่งเรือง) |
๒๖ |
โต. |
โตเสนโต วะระธัมเมนะ
โตสัฏฐาเน สิเว วะเร
โตสัง อะกาสิ ชันตูนัง
โตละจิตตัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงโปรดสัตว์ให้แช่มชื่นด้วยพระธรรม ทรงก่อความยินดีในพระนิพพานอันเป็นฐานที่ควรยินดีให้เกิดมีแก่สัตว์ทั้งหลาย ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น มีพระจิตเที่ยงตรง |
ภาวนาเสก มีคุณอย่างเอก เข้าหาเจ้าขุน มูลนายเจ้าพระยา เมตตาอุดหนุน โปรดปรานการุณ เพราะคุณคาถา (ภาวนาเข้าสู่ขุนนางและท้าวพระยาทั้งปวงมีความสวัสดี) |
๒๗ |
โล. |
โลเภ ชะหะติ สัมพุทโธ
โลกะเสฏโฐ คุณากะโร
โลเภ สัตเต ชะหาเปติ
โลภะสันตัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด เป็นอากรแห่งคุณความดีประเสริฐสุดในโลก ทรงละโลภะเสียได้ ทรงยังสัตว์ทั้งหลายให้ละโลภะด้วย ข้าฯ ขอนอบน้อมพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้มีโลภะอันระงับแล้ว |
ภาวนาเป่า ศัตรูทุกเหล่า แม้กริ้วโกรธา แต่พอได้เห็น เอ็นดูเมตตา ปราณีนักหนา ดุจญาติของตน (ภาวนาทำให้ศัตรูกลับเป็นมิตร) |
๒๘ |
กะ. |
กันโต โย สัพพะสัตตานัง
กัตวา ทุกขักขะยัง ชิโน
กะเถนโต มะธุรัง ธัมมัง
กะถาสัณหัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด เป็นผู้อันสัตว์ทั้งหลายรักใคร่ ทรงแสดงธรรมไพเราะ ทำความสิ้นทุกข์แห่งสรรพสัตว์ ข้าฯ ขอนอบน้อมพระชินเจ้าพระองค์นั้น ผู้มีพระวาจาละเอียดสุขุม |
เอาข้าวสารมา แล้วภาวนา เสกให้หลายหน เสร็จแล้วซัดไป ไล่ผีบัดดล หนีไปไกลพ้น ไม่มาราวี (ภาวนาเสกข้าวสารซัดผีเข้า) |
๒๙ |
วิ. |
วินะยัง โย ปะกาเสติ
วิทธังเสตวา ตะโย ภะเว
วิเสสัญญาณะสัมปันโน
วิปปะสันนัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงประกาศพระวินัย ทรงทำลายไตรภพเสีย แล้วทรงถึงพร้อมด้วยพระญาณอันวิเศษ ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ใสสะอาดบริสุทธิ์ |
เสกขมิ้นและว่าน เสกข้าวรับประทาน อยู่คงอย่างดี อีกอย่างหนึ่งไซร้ ไล่ขับผี ภูติพรายไม่มี สิงสู่กายา (ภาวนาเพื่อการแข่งพนันสารพัด) |
๓๐ |
ทู. |
ทูเส สัตเต ปะหาเสนโต
ทูรัฏฐาเน ปะกาสะติ
ทูรัง นิพพานะมาคัมมะ
ทูสะหันตัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ยังสัตว์ผู้โกรธเคืองประทุษร้าย ให้ร่าเริงหายโกรธด้วยธรรม พระพุทธเจ้าพระองค์ใดมีพระเกียรติคุณปรากฏไปไกล ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ลุถึงแดนไกลคือพระนิพพาน แล้วกำจัดความร้ายได้ |
ภาวนาบทนี้ เมตตาปราณี ไม่มีโทสา หญิงชายทั้งหลาย รักใคร่หนักหนา ห่างไกลภัยยา สิ้นทุกข์สดใส (ภาวนาจะไปก็ดี จะอยู่ก็ดี) |
๓๑ |
อะ. |
อันตัง ชาติชะราทีนัง
อะกาสิ ทิปะทุตตะโม
อะเนกุสสาหะจิตเตนะ
อัสสาเสนตัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าผู้ทรงพระคุณสูงสุดในหมู่มนุษย์พระองค์ใด ได้ทรงทำที่สุดแห่งทุกข์ มีชาติและชรา เป็นต้นแล้ว ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้โปรดสัตว์ให้อุ่นใจ ด้วยน้ำพระหฤทัยอุตสาหะเป็นอันมาก |
จงได้ตรองตรึก หมั่นพินิจนึก ภาวนาไป เห็นหน้า เมตตารักใคร่ ภาวนาไว้ เป็นศุภมงคล (ภาวนาให้ศัตรูกลับใจยินดี) |
๓๒ |
นุต. |
นุเทติ ราคะจิตตานิ
นุทาเปติ ปะรัง ชะนัง
นุนะ อัตถัง มะนุสสานัง
นุสาสันตัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงบรรเทาเสียได้ซึ่งราคะจิต ทรงยังคนอื่นให้บรรเทาด้วย ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงพร่ำสอนธรรมอันเป็นประโยชน์แน่แท้แก่มนุษย์ทั้งหลาย |
บทนี้ดีเหลือ ให้ใช้ในเมื่อ ถึงคราวอับจน ป้องกันผู้ร้าย โรคภัยเบียดตน พินาศปี้ป่น ไม่ทันรบกวน (ภาวนากันหลับแล) |
๓๓ |
ตะ. |
ตะโนติ กุสะลัง กัมมัง
ตะโนติ ธัมมะเทสะนัง
ตัณหายะ วิจะรันตานัง
ตัณหาฆาฏัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงเผยแผ่ธรรมอันเป็นกุศล ทรงขยายการแสดงธรรมให้กว้างขวางออกไป ข้าฯขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงช่วยกำจัดตัณหาของสัตว์ทั้งหลายผู้พล่านอยู่ด้วยความอยากต่างๆ |
ภาวนาเสก ปลุกตัวและเลข ว่านยาทั้งมวล อนึ่งใช้เสก เครื่องคลาดก็ควร เมื่อรณศึกล้วน เป็นศิริมงคล (ภาวนาเสกปลุกสารพัดทั้งปวง) |
๓๔ |
โร. |
โรเสนโต เนวะ โกเปติ
โรเสเหวะ นะ กุชฌะติ
โรคานัง ราคะอาทีนัง
โรคะหันตัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ไม่ทรงโกรธผู้ที่โกรธเอา ไม่ทรงพลอยโกรธไปกับพวกคนโกรธ ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงกำจัดโรคแห่งโรคทั้งหลาย มีราคะเป็นอาทิ เสียได้ |
ภาวนาใช้เป็นไร จากด้าวถิ่นตน ทั้งใช้ปลุกเสก ซึ่งเครื่องคงทน อย่าได้ฉงน แก้กันสรรพภัย (ภาวนากันภัยเมื่อจะมีที่ไปแล) |
๓๕ |
ปุ. |
ปุณันตัง อัตตะโน ปาปัง
ปุเรนตัง ทะสะปาระมี
ปุญญะวันตัสสะ ราชัสสะ
ปุตตะภูตัง นะมามิหัง |
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าผู้ทรงขจัดบาปของพระองค์ ผู้ทรงบำเพ็ญพระบารมี ๑๐ ผู้เป็นพระโอรสของพระราชาผู้มีบุญ |
บทนี้ศักดิ์สิทธิ์ ภาวนาดับพิษ สัตว์ร้ายทั้งหลาย ตะขาบแมลงป่อง หากต้องเหล็กใน จงภาวนาไว้ พิษห่างบางเบา (ภาวนากันจระเข้ และแมลงป่อง) |
๓๖ |
ริ. |
ริปุราคาทิภูตัง วะ
ริทธิยา ปะฏิหัญญะติ
ริตตัง กัมมัง นะ กาเรตา
ริยะวังสัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงกำจัดเสียได้ซึ่งสิ่งอันเป็นข้าศึก มีราคะเป็นต้น ด้วยพระบุญฤทธิ์ ไม่ทรงยังสัตว์ให้ทำกรรมที่เปล่าประโยชน์ ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้เป็นวงศ์อริยะ |
บทนี้ภาวนา รุ่งเรืองเดชา อำนาจแก่เรา ทั้งหญิงและชาย พอได้เห็นเรา ครั่นคร้ามไม่เบา เมื่อเข้าสมาคม (ภาวนาเพื่อให้มีความองอาจกล้าหาญในท่ามกลางคนทั้งปวง) |
๓๗ |
สะ. |
สัมปันโน วะระสีเลนะ
สะมาธิปะวะโร ชิโน
สะยัมภูญาณะสัมปันโน
สัณหะวาจัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงถึงพร้อมด้วยศีล มีพระสมาธิอันประเสริฐ ประกอบด้วยพระสยัมภูญาณ ข้าฯ ขอนอบน้อมพระชินเจ้าพระองค์นั้น ผู้มีพระวาจาละเอียดอ่อน |
ภาวนาทุกวัน หมู่เทพเทวัญ ชวนกันระดม พิทักษ์รักษา เจตนารมณ์ มิให้ระทม เดือดเนื้อร้อนใจ (ภาวนาสวดทุกวัน เทวดามาฟัง) |
๓๘ |
ทัม. |
ทันโต โย สะกะจิตตานิ
ทะมิตะวา สะเทวะกัง
ทะทันโต อะมะตัง เขมัง
ทันตินทฺริยัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงฝึกจิตของพระองค์แล้ว ทรงฝึกมนุษย์กับทั้งเทวดาด้วย โปรดประทานอมตธรรมอันเกษมแก่เขาทั้งหลาย ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้มีพระอินทรีย์อันฝึกได้ที่แล้ว |
บทนี้ภาวนา สำหรับเสกผ้า โพกเศียรครรไร เจริญราศี สวัสดีมีชัย เสก ณ ที่ไซร้ แมลงรูปบัดดล (ภาวนาเสกผ้านุ่งห่ม) |
๓๙ |
มะ. |
มะหุสสาเหนะ สัมพุทโธ
มะหันตัง ญาณะมาคะมิ
มะหิตัง นะระเทเวหิ
มะโนสุทธัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ได้บรรลุพระญาณอันใหญ่ด้วยพระอุตสาหะใหญ่ ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้มีพระมโนบริสุทธิ์ อันมนุษย์และเทวดาทั้งหลายพากันบูชาแล้ว |
อาจารย์กล่าวไว้ ให้เสกดอกไม้ ทัดหูของตน มีสง่าราศี สวัสดีมงคล เสน่ห์เลิศล้น แก่คนทั้งหลาย (ภาวนาเสกดอกไม้ทัดหูเป็นเสน่ห์) |
๔๐ |
สา. |
สารัง เทตีธะ สัตตานัง
สาเรติ อะมะตัง ปะทัง
สาระถี วิยะ สาเรติ
สาระธัมมัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด โปรดประทานธรรมอันเป็นแก่นสารแก่สัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ ยังสัตว์ทั้งหลายให้แล่นไปสู่ทางอมตะ ดังสารถียังม้าให้แล่นไปสู่ทางที่ประสงค์ฉะนั้น ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้มีธรรมเป็นสาระ |
ภาวนาให้มั่น กันฝังอาถรรพ์ เวทย์มนต์ทั้งหลาย ทั้งกันกระทำ มิให้ต้องกาย อีกอาวุธร้าย เมื่อเข้าณรงค์ (ภาวนาป้องกันอาถรรพ์ต่างๆ) |
๔๑ |
ระ. |
รัมมะตาริยะสัทธัมเม
รัมมาเปติ สะสาวะกัง
รัมเม ฐาเน วะสาเปนตัง
ระณะหันตัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงยินดีในอริยสัทธรรม ทรงยังสาวกของพระองค์ให้ยินดีด้วย ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ยังสาวกให้ได้อยู่ในฐานะอันน่ายินดี ผู้กำจัดข้าศึกคือกิเลส |
ใช้ภาวนา ป้องกันสัตว์ป่า เสือช้างกลางดง ทั้งควายและวัว กระทิงตัวยง ไม่กล้าอาจอง ตรงเข้าราวี (ภาวนาป้องกันสัตว์ร้าย เช่น เสือ ช้าง) |
๔๒ |
ถิ. |
ถิโต โย วะระนิพพาเน
ถิเร ฐาเน สะสาวะโก
ถิรัง ฐานัง ปะกาเสติ
ถิตัง ธัมเม นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด พร้อมทั้งสาวกของพระองค์ ทรงตั้งอยู่แล้วในฐานะอันมั่นคงคือพระนิพพาน ทรงประกาศซึ่งฐานะอันมั่นคง (คือพระนิพพานนั้น) ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นผู้ตั้งอยู่ในธรรม |
บทนี้กล้าหาญ เสกข้าวรับประทาน คงกระพันชาตริ ศัตรูหมู่ภัย ไม่ร้ายราวี เป็นสง่าราศี ไม่มีศัตรู (ภาวนาเสกข้าวกิน) |
๔๓ |
สัต. |
สัทธัมมัง เทสะยิตวานะ
สันตะนิพพานะปาปะกัง
สะสาวะกัง สะมาหิตัง
สันตะจิตตัง นะมามิหัง |
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพร้อมทั้งสาวกของพระองค์ ผู้ทรงแสดงพระสัทธรรมอันให้ถึงพระนิพพานอันรำงับแล้ว เป็นผู้ตั้งมั่นสงบระงับ |
เมื่อจะไสยา จงได้ภาวนา ตามคาคุณครู ป้องกันโจรร้าย ไม่มีศัตรู ที่จะมาขู่ ข่มเหงน้ำใจ (ภาวนาป้องกันโจรผู้ร้าย) |
๔๔ |
ถา. |
ถานัง นิพพานะสังขาตัง
ถาเมนาธิคะโต มุนิ
ถาเน สัคคะสิเว สัตเต
ถาเปนตัง ตัง นะมามิหัง |
พระมุนีเจ้าพระองค์ใดได้บรรลุฐานะกล่าวคือพระนิพพานด้วยพระกำลังความเพียร ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ยังสัตว์ให้ตั้งอยู่ในฐานะทั้งที่เป็นสวรรค์และนิพพาน |
ภาวนานึก เมื่อจะออกศึก สงครามใดๆ แคล้วคลาดศาสตรา ไม่มาต้องได้ คุ้มครองกันภัย ได้ดีนักหนา (ภาวนาเพื่อเข้าไปสู่สงคราม) |
๔๕ |
เท. |
เทนโต โย สัคคะนิพพานัง
เทวะมะนุสสะปาณินัง
เทนตัง ธัมมะวะรัง ทานัง
เทวะเสฎฐัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ประทานสมบัติคือสวรรค์และพระนิพพานแก่หมู่สัตว์ทั้งเทวดาและมนุษย์ ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้เป็นเทพใหญ่ประทานพระธรรมเป็นทาน |
บทนี้ก็เอก ใช้สำหรับเสก ธูปเทียนบุปผา บูชาพระเจ้า พุทธัมสัมฆา จะมีสง่า ราศีผ่องใส (ภาวนาเสกเทียนเป็นสวัสดี) |
๔๖ |
วะ. |
วันตะราคัง วันตะโทสัง
วันตะโมหัง อะนาสะวัง
วันทิตัง เทวะพฺรหฺเมหิ
มะหิตันตัง นะมามิหัง |
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าผู้คายราคะ คายโทสะ คายโมหะแล้ว หาอาสวะมิได้ อันเทวดาและพรหมทั้งหลายกราบไหว้แล้ว |
บทนี้ดียิ่ง ใช้เสกมาลี สิบเก้าคาบไซร้ เอามาทัดหู คนดูรักใคร่ บูชาพระไซร้ ย่อมเป็นมงคล (ภาวนาเสกดอกไม้ทัดหูเป็นเสน่ห์) |
๔๗ |
มะ. |
มะหะตา วิริเยนาปิ
มะหันตัง ปาระมิง อะกา
มะนุสสะ เทวะพรหเมหิ
มะหิตันตัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงสร้างพระบารมีอันใหญ่ด้วยพระวิริยะอันใหญ่เหมือนกัน ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้อันมนุษย์ เทวดาและพรหมทั้งหลายบูชาแล้ว |
เมื่อลงนาวา ขับขี่ช้างม้า ยาตราจรดล หรือขึ้นเรือนใหม่ อย่าได้ฉงน เสก 19 หน จะมีเดชา (ภาวนาขึ้นช้างลงม้า ขึ้นเรือนลงเรือน) |
๔๘ |
นุส. |
นุนะธัมมัง ปะกาเสนโต
นุทะนัตถายะ ปาปะกัง
นุนะ ทุกขาธิปันนานัง
นุทาปิตัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงประกาศธรรมอันแน่แท้ เพื่อบรรเทาเสียซึ่งบาปของสัตว์ทั้งหลายผู้จมทุกข์อยู่เต็มแปล้ ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้โปรดสัตว์ให้บรรเทาบาปของตนได้ด้วย |
ภาวนาบ่น ประเสริฐเลิศล้น อย่าได้กังขา ชนช้างก็ดี หรือขี่อาชา มีเดชแกล้วกล้า ไชยาสวัสดี (ภาวนาขึ้นช้างลงม้า มีตบะเดชะ) |
๔๙ |
สา. |
สาวะกานังนุสาเสติ
สาระธัมเม จะ ปาณินัง
สาระธัมมัง มะนุสสานัง
สาสิตันตัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงพร่ำสอนสารธรรมแก่พระสาวกทั้งหลายและแก่สัตว์ทั่วไปด้วย ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงสอยธรรมอันเป็นสาระแก่มนุษย์ทั้งหลาย |
บทนี้ดีมาก เมื่อจะกินหมาก เสก ๑๗ ที ทั้งแป้งน้ำมัน จวงจันทร์มาลี ทัดกรรณก็ดี มีเสน่ห์ยิ่งยง (ภาวนาเสกเมื่อกินเส้น) |
๕๐ |
นัง. |
นันทันโต วะระสัทธัมเม
นันทาเปติ มะหามุนิ
นันทะภูเตหิ เทเวหิ
นันทะนียัง นะมามิหัง |
พระมหามุนีเจ้าพระองค์ใด ทรงยินดีในพระสัทธรรม ทรงยังสัตว์ทั้งหลายให้ยินดีด้วย ข้าฯ ขอนอบน้อมพระมหามุนีเจ้าพระองค์นั้น ผู้ที่เทวดาทั้งหลายซึ่งเป็นพวกชอบหาที่เพลิดเพลินยินดี พึงนิยมยินดีในพระองค์ |
บทนี้เลิศล้ำ เสกลูกประคำ สังวาลสวมองค์ ตะกรุดพิศมร ๑๙ คาบตรง มีเดชมั่นคง ราศีผ่องใส (ภาวนาเสกประคำสังวาลย์) |
๕๑ |
พุท. |
พุชฌิตาริยะสัจจานิ
พุชฌาเปติ สะเทวะกัง
พุทธะญาเณหิ สัมปันนัง
พุทธัง สัมมา นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ตรัสรู้อริยสัจแล้ว ยังมนุษย์และเทวดาให้รู้ด้วย ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงถึงพร้อมด้วยพระพุทธญาณทั้งหลาย ตรัสรู้โดยชอบแล้ว |
ภาวนาบทนี้ เมื่อจะจรลี สู่บ้านเมืองไกล ป้องกันสรรพเหตุ เภทภัยใดๆ มีคุณยิ่งใหญ่ แก่ผู้ภาวนา (ภาวนาเมื่อเข้าบ้านเข้าเมือง กันภัยทั้งปวง) |
๕๒ |
โธ. |
โธวิตัพพัง มะหาวีโร
โธวันโต มะละมัตตะโน
โธวิโต ปาณินัง ปาปัง
โธตะเกลสัง นะมามิหัง |
พระมหาวีรเจ้าพระองค์ใด ทรงล้างมลทินที่พึงล้างของพระองค์ ทรงล้างความลามกของสัตว์ทั้งหลายด้วย ข้าฯ ขอนอบน้อมพระมหาวีรเจ้าพระองค์นั้น ผู้มีเครื่องเศร้าหมองอันล้างแล้ว |
บทนี้เป็นเอก สำหรับปลุกเสก เครื่องลางนานา ประสิทธิทุกอย่าง อีกทั้งมนตรา ๗ ทีบัดดล (ภาวนาเสกทั้งปวง) |
๕๓ |
ภะ. |
ภะยะมาปันนะสัตตานัง
ภะยัง หาเปติ นายะโก
ภะเว สัพเพ อะติกกันโต
ภะคะวันตัง นะมามิหัง |
พระผู้นำพระองค์ใดทรงยังความกลัวของสัตว์ทั้งหลายผู้ต้องภัยให้หาย ทรงก้าวล่วงเสียซึ่งภพทั้งปวง ข้าฯ ขอนอบน้อมพระผู้นำพระองค์นั้นผู้มีโชค |
บทนี้ดีล้นค่า ใช้เสกศาสตรา อาวุธคู่ตน นิราศผองไพร มิได้ต้องตน เสก ๑๙ หน ตนจะอาจหาญ (ภาวนาเสกอาวุธทั้งปวง) |
๕๔ |
คะ. |
คะหิโต เยนะ สัทธัมโม
คะตัญญาเณนะ ปาณินัง
คะหะณิยัง วะรัง ธัมมัง
คัณหาเปนตัง นะมามิหัง |
พระสัทธรรมอันพระพุทธเจ้าพระองค์ใด ผู้มีพระญาณลุล่วงตรัสไว้แล้ว ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ทรงยังสัตว์ทั้งหลายให้รับเอาธรรมที่ควรรับเอาอย่างประเสริฐ |
บทนี้ภาวนา เมื่อจะเข้าหา สมณาจารย์ ท่านมีเมตตา กรุณาสงสาร ล้วนมงคลการ ประเสริฐเลิศล้น (ภาวนาไปสู่พระยา สมณชีพราหมณาจารย์) |
๕๕ |
วา. |
วาปิตัง ปะวะรัง ธัมมัง
วานะโมกขายะ ภิกขุนัง
วาสิตัง ปะวะเร ธัมเม
วานะหันตัง นะมามิหัง |
ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้า ผู้ทรงหว่านพระธรรมอันประเสริฐแก่ภิกษุทั้งหลาย เพื่อให้พ้นจากวานะคือตัณหา ผู้อบรมแล้วในธรรมอันประเสริฐ ผู้กำจัดวานะคือตัณหา |
เข้าหาขุนนาง แม้ใจกระด้าง โอนอ่อนบัดดล จงได้ภาวนา ท่านเมตตาตน กรุณาเลิศล้น อย่าแหนงแคลงใจ (ภาวนาเข้าสู่คนแข็ง ก็อ่อนแล) |
๕๖ |
ติ. |
ติณโณ โย สัพพะปาเปหิ
ติณโณ สัคคา ปะติฏฐิโต
ติเร นิพพานะสังขาเต
ติกขะญาณัง นะมามิหัง |
พระพุทธเจ้าพระองค์ใด ทรงข้ามไปจากบาปทั้งปวง ทรงข้ามจากแม่น้ำ ประดิษฐานอยู่บนฝั่งคือพระนิพพานได้แล้ว ข้าฯ ขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้มีพระญาณคมกล้า |
ภาวนาบทนี้ เหมือนดั่งมณี หาค่ามิได้ เจริญทุกวัน ป้องกันโรคภัย ทุกโศกฤษัย ศูนย์หายสิ้นเอย(เป็นคาถาสรุปไม่มีอุปเทศ). |